วันเสาร์ที่ 29 พฤศจิกายน พ.ศ. 2557

หลิมฮู้ไท่ซือ



หลิมฮู้ไท่ซือ 


           หลินไท่ซือ หรือ หลินไท่ซือกง หรือ หลิมฮู้ไท่ซือ ท่านเกิดเมื่อวันที่สี่ เดือนสี่ ปี ค.ศ.1537 หรือปีพุทธศักราชที่ 2080 ณ บ้านหยุนเซียว มณฑลฟู่เจี้ยน หรือฮกเกี้ยน ในปีที่ 16 ของรัชสมัยฮ่องเต้เจียจิ้ง ราชวงศ์หมิงซึ่งตรงกับปีเกิดปีเดียวกับ King Edward ที่หก ของอังกฤษ, โชกุน อาชิกาย่า โยชิอากิของญี่ปุ่น และกษัตริย์จอนห์ที่3 ของประเทศสวีเดน 
ท่านมีชื่อจริงว่า หลินเสียชุน หรือฉายาว่า หลินฝู๋หยวน โดยในปีค.ศ.1565 ท่านได้เข้ารับราชการในตำแหน่งขุนนางในราชสำนักหมิงเป็นครั้งแรก ซึ่งขณะนั้นท่านมีอายุได้ 28 ปีพอดี และท่านยังได้รับเชิญเข้าร่วมสภาฮั่นหลินซึ่งเป็นสภาที่ทรงอิทธิพลมากสำหรับบัณฑิตในยุคนั้น ซึ่งหน้าที่ของสภาฮั่นหลินคือ บันทึกและแก้ใขประวัติศาสตร์ของราชวงค์ รวมไปถึงการวางแผนการศึกษา และการสอบเพื่อเฟ้นหาบัณฑิตเข้ารับราชการอีกด้วย 


           สมาชิก ของสภาฮั่นหลินก่อนหน้าท่านหลิมไท่ซือนี้ เป็นบุคคลที่มีชื่อเสียงสุดยอด ในยุคต่างๆทั้งสิ้น อาทิเช่น หลี่ไป่ , ไป่จูอี้, โอวหยางซิว และ เสิ่นโข่ว เป็นต้น และเป็นที่น่าเสียดายว่า บันทึกเก่าๆที่มีคุณค่าซึ่งเก็บรักษาอยู่ในห้องสมุดของสภาฮั่นหลินได้ถูกไฟ ไหม้ทำลายและโดนปล้นไปบางส่วนจากเหตุการณ์กบฎนักมวยที่มีกองกำลังนานาชาติ ได้ปิดล้อมพระราชวังต้องห้ามในกรุงปักกิ่ง เมื่อปี ค.ศ.1900 และสภาฮั่นหลินก็ต้องปิดฉากลงอย่างถาวรหลังจากเหตุการณ์กบฎซินห้ายใน ปีค.ศ. 1911 
ในปี ค.ศ.1568 ท่านได้รับเลือกเป็นมหาบัณฑิตในสภาฮั่นหลินและมีหน้าที่สำคัญคือการบันทึก และแก้ไขประวัติศาสตร์ของประเทศ 
ปี ค.ศ.1573 ท่านได้รับการเลื่อนตำแหน่งเป็นไท่ซือ ซึ่งคอยให้การศึกษาแก่องค์รัชทายาท ซึ่งเป็นตำแหน่งที่สูงที่สุดในชีวิตการรับราชการของท่าน และในปี ค.ศ.1607 ท่านก็ได้สิ้นชีวิตลง รวมอายุได้ 71 ปี ร่างของท่านได้รับการฝังอยู่ที่ภูเขาชีซิง(แปลว่าเขาเจ็ดดาว) มณฑลฮกเกี้ยน 
ตามประวัติได้มีการบันทึกว่า ขณะที่ท่านดำรงตำแหน่งไท่ซือนั้น ท่านได้ปราบปรามพวกอันธพาลนักเลงที่กำลังทำลายศาลเจ้าแห่งหนึ่ง ซึ่งศาลเจ้าแห่งนี้อยู่ในพื้นที่ที่ท่านดูแลในฐานะของไท่ซืออยู่ หลังจากที่ท่านได้จับพวกอันธพาลได้หมดแล้ว ท่านจึงได้ทราบว่าศาลเจ้าแห่งนี้ได้สร้างขึ้นเพื่อสักการะบูชาเทพเจ้ากิ้ว อ๋องไต่เต่ 


            และในคืนนั้นเอง กิ้วอ๋องไต่เต่ ได้มาปรากฎขึ้นในความฝันของท่าน เพื่อแสดงความขอบคุณที่ได้ช่วยเหลือศาลเจ้าให้รอดพ้นจากการทำลาย และในฝันนั้น องค์กิ้วอ๋องไต่เต่ ยังได้แต่งตั้งตำแหน่งให้ท่านเป็นกิ้วอ๋องไท่ซือกง อีกด้วย 

วัน ต่อมาท่านได้กลับไปที่ศาลเจ้า และได้เกิดเรื่องอัศจรรย์ขึ้น คือในศาลเจ้าได้มีเก้าอี้ซึ่งอุทิศไว้สำหรับท่าน ปรากฎขึ้นในศาลเจ้าของกิ้วอ๋องไต่เต่นั้นเอง ตั้งแต่นั้นมาชาวบ้านก็เคารพนับถือท่านในฐานะของ หลิมฮู้ไท่ซือ หรือกิ้วอ๋องไท่ซือกง เป็นต้นมาจวบกระทั่งปัจจุบัน ซึ่งศาลเจ้าหรือแท่นบูชา(สินตั๋ว)โบราณๆ ที่บูชากิ้วอ๋องไต่เต่ มักจะมีการบูชาหลิมไท่ซือด้วย เพื่อเป็นการแสดงเคารพนับถือท่านเช่นกัน 
หลิมไท่ซือ ยังได้รับการยกย่องบูชาเป็นหนึ่งในเทพเจ้าของบรรพบุรุษคนแซ่หลิม หรือ แซ่หลิน ในภาษาจีนกลาง อีกด้วย


ขอขอบคุณ     http://www.phuketvegetarian.com/borad/data/1926-1.html

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น