ออบิ่นซาม้า
ปีหนึ่งในสมัยราชวงศ์หมิง ในขณะที่ม้าจ้อกำลังโปรดสัตว์ต่างๆตามปกติอยู่นั้น เชียนลี้ง้าน และซุนฮองหนี้ ได้แจ้งว่ามีหมอกดำปกคลุมเป็นที่ผิดสังเกตุ บริเวณเขาบู๊อีซาน ( ปัจจุบันภูเขานี้มีชื่อเสียงเรื่องชาฮกเกี่ยนมาก) เมืองฮกเกี่ยน ทันใดนั้นม้าจ้อและบริวารทั้งสองก็รีบตรงไปที่บู๊อีซานทันที
เมื่อถึงบริเวณภูเขา ม้าจ้อได้แปลงกายเป็นสาวชาวบ้านเพื่อสามารถเข้าไปตรวจสอบได้ใกล้ ชิด และได้ใช้อิทธิฤทธิ์เรียกเทพเจ้าที่ มาเพื่อไต่ถามถึงเหตุการณ์ดังกล่าว เทพเจ้าที่ได้กล่าวว่า ไม่กี่เดือนที่ผ่านมานี้ ได้มีพายุฟ้าคะนองและมีปีศาจซึ่งมีกายเป็นสีดำทะมึนพุ่งลงมาจาก ฟ้าเข้าไป อยู่ในถ้ำแห่งหนึ่งในภูเขาบู๊อีซาน และหลังจากนั้นก็เกิดหมอกควันสีดำผวยพุ่งออกมาปก คลุมท้องฟ้าทั้งภูเขาบู๊อี และเมืองฮกเกี่ยน ชาวบ้านที่มาทำไร่บริเวณภูเขาที่หายใจเอาควันสีดำเข้าไป ก็ทำให้ใบหน้าของพวกเขากลายเป็นสีดำสนิท จนชาวบ้านหวาดกลัวและไม่กล้าเข้ามาทำไร่ไถนาบริเวณภูเขาอีก จนทำให้เกิดความวุ่นวายและเดือนร้อนกันไปทั่ว
ม้าจ้อออกคำสั่งให้เชียนลี้ง้านและซุน ฮองหนี้ เฝ้าคุ้มกันอยู่บนอากาศ ส่วนม้าจ้อก็เดินเท้าขึ้นภูเขาเพื่อจะล่อจับปีศาจ เพื่อมิให้ผิดสังเกตุ ม้าจ้อได้ใช้อิทธิฤทธิ์เสกหน้าตัวเองให้เป็นสีดำเพื่อให้ปีศาจไม่ สงสัย เมื่อมาถึงปากถ้ำ ได้เกิดควันสีดำผวยพุ่งออกมาเพื่อเข้ามาทำร้ายม้าจ้อ ทันใดนั้นม้าจ้อได้กลับกลายเป็นร่างเดิมของท่าน และได้เข้าต่อสู้กับปีศาจควันดำนั้น แต่ด้วยอิทธิฤทธิ์เทพสวรรค์ของม้าจ้อ เจ้าปีศาจมิอาจที่จะเอาชนะได้ และกำลังจะหลบหนี เข้าไปในถ้ำ ขณะนั้นเองเชียนลี้ง้าน และซุนฮองหนี้ก็เข้ามาช่วยม้าจ้อจับตัวปีศาจควันดำ นั้นได้
หลังจากปีศาจควันดำโดนจับได้ ก็กลายร่างมาเป็นร่างเดิมของมัน ซึ่งก็คือปีศาจเต่าดำนั้นเอง และต่อมาปีศาจเต่าดำตนนี้ก็ขอติดตามม้าจ้อ ไปช่วยโปรดสัตว์โดยเฉพาะเวลาที่ม้าจ้อท่องเที่ยวไปในท้องมหาสมุทร ตั้งแต่นั้นมา
ขอขอบคุณ http://www.phuketvegetarian.com/borad/data/1926-1.html
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น